วันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

มาสายประจำ ไม่ต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า

                ในการจ้างงาน  นายจ้างย่อมหวังว่าลูกจ้างจะต้องทำงานให้กับตนเต็มที่  จึงได้มีกฎระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานเพื่อให้ลูกจ้างต้องปฏิบัติงานให้อย่างเต็มความสามารถ ลูกจ้างบางคนไม่ใส่ใจระเบียบบริษัทฯ  เช่นชอบมาทำงานไม่เป็นไปตามเวลาทำงานปกติที่นายจ้างกำหนด  กลับก่อนเวลาเลิกงาน ถ้าทำบ่อยเข้า  นายจ้างอาจลงโทษตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน หรือทนไม่ได้ อาจไม่ให้ทำงานต่อไป  หรือเลิกจ้างได้      

ฎีกาที่  ๒๔๗๑/๒๕๕๖

                ตามคำสั่งเลิกจ้างของจำเลยเอกสาร ล.๑๕ ข้อ.๒ ระบุว่า โจทก์ไม่อุทิศเวลาทำงานให้บริษัทฯ  มีการมาปฏิบัติงานสาย ลาป่วย ลากิจมากเกินปกติในรอบปี ๒๕๔๙ จนถึงรอบปีปัจจุบัน  ซึ่งจำเลยได้ออกหนังสือเตือนตามเอกสารหมาย ล.๗ ข้อ ๑.๑ ก็ระบุว่าโจทก์มาทำงานสายถึง ๓๘ ครั้ง รวม ๔ ชั่วโมง ๕ นาที  และศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์มาทำงานสายเป็นประจำ ถือว่าเป็นการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต จำเลยเลิกจ้างโดยไม่ต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๘๓ ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามานั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา อุทธรณ์ของจำเลยข้อนี้ฟังขึ้น
                   พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอให้จ่ายค่าสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าด้วยนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง
หมายเหตุ        คดีนี้เป็นกรณีพิพาทเรื่องสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ในกรณีมาทำงานสาย นายจ้างอาจลงโทษโดยการตักเตือนเป็นหนังสือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานได้