วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

๑.การกระทำผิดของลูกจ้างเป็นกรณีร้ายแรงหรือไม่พิจารณาจากอะไร ? ๒.แม้ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน แต่นายจ้างไม่เสียหาย ไม่เป็นกรณีร้ายแรง

ฎีกาที่  ๑๕๐๗๗/๒๕๕๕
                     การกระทำของลูกจ้างเป็นกรณีที่ร้ายแรงหรือไม่นั้นต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆประกอบกันหลายประการ อาทิ (๑) ตำแหน่งหน้าที่การงานของลูกจ้าง (๒) ลักษณะและพฤติการณ์ การกระทำความผิดของลูกจ้าง (๓) ตลอดจนผลเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำมีมากน้อยเพียงใด 
                        นางสาวระเบียบทำหน้าที่ควบคุมเครื่องจักรที่ประกอบชิ้นงานในรูปแบบต่างๆ เช่น รูปงานเกี่ยวกับร้อยสายไฟฟ้าเป็นต้น โดยยืนทำงานอยู่หน้าเครื่องจักร  นางสาวระเบียบนำอาหารมาวางขายไว้ใกล้กับเครื่องจักรที่นางสาวระเบียบทำงาน สินค้าที่เป็นชิ้นผู้ซื้อจะหยิบสินค้านั้นและมาจ่ายเงินแก่นางสาวระเบียบบางครั้งนางสาวระเบียบก็ทอนเงินแก่ลูกค้า บางครั้งหยิบอาหารใส่ถุงให้ลูกค้าด้วย ซึ่งศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าการซื้อขายสินค้าดังกล่าวใช้เวลาเพียงเล็กน้อยไม่ถึงกับขัดขวางการทำงานของนางสาวระเบียบ หรือเป็นเหตุให้งานที่นางสาวระเบียบทำงานอยู่เกิดความล่าช้าหรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแต่อย่างใด ทั้งยังปรากฏข้อเท็จจริงว่านางสาวระเบียบเคยนำสินค้ามาจำหน่ายแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งหัวหน้าผู้ควบคุมการทำงานก็เพียงแต่ตักเตือนนางสาวระเบียบด้วยวาจาเท่านั้น การกระทำของนางสาวระเบียบแม้จะเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระเบียบหรือคำสั่งของโจทก์อันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมแต่ก็เป็นเพียงกรณีที่ไม่ร้ายแรง ซึ่งโจทก์จะต้องตักเตือนเป็นหนังสือก่อน เมื่อโจทก์เลิกจ้างนางสาวระเบียบโดยมิได้ตักเตือนเป็นหนังสือก่อนโจทก์ต้องจ่ายค่าชดเชยให้นางระเบียบ