วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557

ขับรถหวาดเสียว (พนง.ขับรถ) เลิกจ้าง ได้ใหมละ!!!

ฎีกาที่  ๒๙๖๒/๒๕๕๕
                        พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ มาตรา ๑๗ วรรคสาม ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับในขณะเลิกจ้าง (ปัจจุบัน ระบุในมาตรา ๑๑๙ วรรคท้าย (***แก้ไข พ.ศ.2551***)) กำหนดว่า ในกรณีนายจ้างเป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญาจ้างโดยทำเป็นหนังสือ หากนายจ้างประสงค์จะยกเหตุตามมาตรา ๑๑๙ ขึ้นอ้างเพื่อไม่จ่ายค่าชดเชย นายจ้างต้องระบุเหตุดังกล่าวไว้ในหนังสือบอกเลิกสัญญาจ้างด้วยมิฉะนั้นนายจ้างจะยกขึ้นอ้างในภายหลังไม่ได้ เห็นได้ว่าการบอกเลิกสัญญาจ้างโดยทำเป็นหนังสือต้องระบุเหตุแห่งการเลิกจ้างโดยทำเป็นหนังสือและต้องระบุเหตุแห่งการเลิกจ้างจำกัดเฉพาะการอ้างหรือข้อต่อสู้ที่จะไม่จ่ายค่าชดเชยตามมาตรา ๑๑๙ เท่านั้น ดังนั้นแม้นายจ้างจะไม่ได้ระบุเหตุแห่งการเลิกสัญญาจ้างไว้นายจ้างก็ยกเหตุแห่งการเลิกจ้างขึ้นอ้างหรือต่อสู้ในคำให้การที่จะไม่จ่ายค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมได้

                        การพิจารณาว่าเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาว่ามีเหตุแห่งการเลิกจ้างหรือไม่ และเหตุดังกล่าวเพียงพอแก่การเลิกจ้างหรือไม่เป็นสำคัญ  จำเลยเลิกจ้างโจทก์ เพราะโจทก์ไม่ให้ความร่วมมือในการทำงานโดยไม่ปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรมในการขับรถ โดยขับรถด้วยความเร็วน่าหวาดเสียว ไม่ควบคุมอารมณ์ในขณะขับรถ ละทิ้งหน้าที่ในวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ เห็นว่าโจทก์เป็นพนักงานขับรถซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีหน้าที่สำคัญเพราะเป็นหน้าที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตร่างการและทรัพย์สินของผู้อื่นและผู้โดยสาร จึงต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง ทั้งต้องให้ความร่วมมือในการทำงานเพื่อให้จำเลยสามารถบริหารจัดการเกี่ยวกับการจัดพนักงานขับรถได้ ก่อนโจทก์จะละทิ้งงาน จำเลยเคยตักเตือนโจทก์เรื่องการทำงาน โจทก์ต้องปรับปรุงพฤติกรรมในการทำงานแต่โจทก์กับเพิกเฉย ทั้งยังไม่ให้ความร่วมมือและละทิ้งงาน การกระทำของโจทก์ดังกล่าวย่อมก่อให้เกิดปัญหาในการบริหารจัดการของจำเลยและอาจก่อให้เกิดปัญหาในความไม่ปลอดภัยในชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของผู้อื่นได้ จำเลยจึงมีเหตุสมควรและเพียงพอที่จะเลิกจ้างโจทก์ การเลิกจ้างโจทก์จึงมิใช่การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม